ทำงานหนักเกินไป เสี่ยงเจอปัญหาสุขภาพอะไรบ้าง
กฏหมายแรงงานกำหนดเวลาทำงานปกติไว้ให้ไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวันเพื่อคุ้มครองสุขภาพและความปลอดภัยของมนุษย์ทำงาน เพราะเมื่อไหร่ที่ชีวิตส่วนตัวกับการทำงานทับถมปนเปจนขาดสมดุล เมื่อนั้นอาจนำพามาซึ่งปัญหาสุขภาพทั้งกายและใจ ยังไม่สายที่จะเริ่มจัดลำดับความสำคัญให้ร่างกายตัวเองเพื่อป้องกันโรคภัยที่อาจมาเยือนได้ง่ายๆ ได้แก่
ท้องไส้ไม่ค่อยดี มีปัญหาทางเดินอาหาร
ด้วยกิจวัตรของคนวัยทำงานที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางความเร่งรีบ หรืองานที่หนักเกินไปจนไม่มีเวลาสำหรับมื้ออาหารที่เป็นกิจจะลักษณะ หลายคนอาจกินมื้อเช้าไม่ทันหรือไม่ก็ข้ามมื้อเช้าไปกินมื้อเที่ยงทีเดียวซึ่งหลายครั้งก็ไม่พ้นอาหารฟาสต์ฟู้ดหรือจานด่วนที่หาซื้อง่าย ความเครียดที่เจอระหว่างวันยังทำให้คนทำงานโหยหาอาหารโซเดียมสูง น้ำตาลเยอะ ขนมขบเคี้ยว อาหารรสจัดหรือหมักดองมาเป็นของกินประจำโต๊ะทำงาน กิจวัตรเหล่านี้เมื่อสะสมนานวันเข้าย่อมส่งผลต่อสุขภาพท้องไส้ได้สารพัด ไม่ว่าจะ ท้องผูกจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ อาหารที่กินมีไฟเบอร์ต่ำ ท้องเสียจากกินอาหารสำเร็จรูปหรือน้ำตาลสูงจำนวนมาก ท้องอืดจากอาหารที่มีโซเดียมและไขมันเกินพอควร และอีกมากมาย หนทางที่จะปลดล็อกตัวเองจากปัญหาสุขภาพเหล่านี้ได้ก็ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น
- ทดแทนด้วยมื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดและเลี่ยง อาหารไขมันสูง โซเดียมสูง
- เตรียมอาหารเช้าไว้ตั้งแต่ตอนกลางเพื่อที่แม้จะเร่งรีบแค่ไหนก็มีมื้อเช้าให้พร้อมอร่อย
- ลดการกินอาหารที่ผ่านกระบวนการหรืออาหารสำเร็จรูป
- กินข้าวให้เป็นเวลา เปลี่ยนสถานที่กินข้าวที่ไม่ใช่โต๊ะทำงาน
- กินอาหารที่หลากหลายที่มีครบทั้งผักผลไม้ ธัญพืชและโปรตีน
จามบ่อย ภูมิแพ้ก่อกวน จากปัญหาทางเดินหายใจ
เพราะอากาศเป็นสิ่งที่สายตามองไม่เห็น หลายคนจึงอาจไม่รู้ว่าแม้ไม่ได้ออกนอกตัวอาคารแต่ก็มีอาการก่อกวนใจทั้งหลายอย่างการจามบ่อย น้ำมูกไหลกันได้บ่อยๆ เพราะคุณภาพอากาศข้างในที่ไม่เหมาะสมต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเพราะสภาพอากาศที่ถ่ายเทไม่ดีพอ การสะสมของสารก่อภูมิแพ้ รวมไปถึงการควันเขม่าจากบุหรี่ก็ล้วนสามารถทำให้เกิดปัญหาทางเดินหายใจ เช่น การระคายคอ ไอ หายใจดังมีเสียง คันและระคายเคืองตา และอาจมีส่วนทำให้ปวดหัวได้เช่นกัน ดังนั้นแล้วคนที่ทำงานหนักอยู่ในที่ใดที่หนึ่งนานๆ จึงต้องหาทางปรับเปลี่ยนสภาพอากาศให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้น เช่น
- เพิ่มการไหลเวียนของอากาศ หาจังหวะหยุดพักเพื่อเปิดหน้าต่างรับลมจากภายนอก
- เบรกความเครียดจากการทำงานมาปัดกวาดบริเวณที่นั่งเพื่อกำจัดฝุ่นฝงหรือสารก่อภูมิแพ้
- ใช้เครื่องฟอกอากาศเพื่อเพิ่มอากาศสะอาดในพื้นที่
- เพิ่มความชื้นในอากาศให้อยู่ที่ประมาณ 30-50% ใส่น้ำมันหอมระเหยในเครื่องเพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
ปวดหลัง คอบ่าไหล่ ระบบกล้ามเนื้อและกระดูกมีปัญหา
ถ้าต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมนานๆ มีใครบ้างที่จะไม่ปวดหลัง ไม่ว่าจะด้วยท่านั่งที่ก้มลงด้วยองศาที่ไม่พอดีตัวย่อมทำให้ปวดเมื่อยคอบ่าไหล่และหลัง การใช้เมาส์หรือพิมพ์คีย์บอร์ดติดต่อกันเป็นระยะเวลานานแทบทั้งวันยังสร้างความเมื่อยล้ากล้ามเนื้อมือและแขน ความปวดเมื่อยเหล่านี้เมื่อสั่งสมนานไปเรื่อยๆ อาจทำให้เกิดเป็นความเจ็บปวดเรื้อรัง ส่งผลกับสุขภาพในระดับถาวร ลดประสิทธิภาพในการทำงานจะเดินเหินขยับตัวไปไหนก็ปวดเมื่อยและสร้างความทุกข์ในใจ ทางแก้คือการจัดการกับสาเหตุหลักอย่างท่าทางในการนั่งที่ไม่เหมาะสม การนั่งอยู่กับที่นานๆ ไม่ได้ขยับเนื้อขยับตัวเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ สิ่งสำคัญคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เฮลตี้ขึ้น เช่น
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ มีเวลาให้ตัวเองได้ใช้ชีวิตนอกโต๊ะทำงาน หรือลุกขึ้นเดินระหว่างวันเพื่อให้กล้ามเนื้อได้ออกแรง สร้างความกระฉับกระเฉง
- ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ไม่ว่าจะด้วยการทำโยคะหรือยืดเส้นยืดสายธรรมดาก็ล้วนช่วยให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย