เพราะชีวิตคือเรื่องราวที่คาดเดาตอนต่อไปได้ยาก และสถานการณ์อับโชคอาจเกิดขึ้นกับใครเมื่อไหร่ก็ได้และยากจะเลี่ยง ยกตัวอย่างเช่น การไปตามนัดลูกค้าไม่ทันเพราะเจอเข้ากับรถติด ทำของสำคัญหล่นหาย เจอฟีดแบ็กบั่นทอนกำลังใจ หรือประสบปัญหาค่าใช้จ่ายไม่พอใช้ระหว่างเดือน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากใครหลายคนจะมองหาหนทางเสริมโชคและความดวงดี เช่นใส่เสื้อสีมงคล ใช้สิ่งของถูกโฉลก จัดโต๊ะทำงานตามหลักฮวงจุ้ย หรือ ดูฤกษ์งามยามดีก่อนจะมีนัดสำคัญ ทั้งนี้ทั้งนั้น การทำสิ่งเล็กๆ ต่อไปนี้ในชีวิตประจำวันก็อาจเป็นตัวช่วยนำพาความโชคดีมาสู่ชีวิตได้เช่นเดียวกัน
1.ติดตามข่าวสารอยู่เสมอ
เชื่อหรือไม่ว่าการเปิดหูเปิดตารับรู้ข่าวสารใหม่ๆ อยู่เสมออาจช่วยให้เราหลีกเลี่ยงเรื่องโชคร้ายได้ทันเวลา เช่น การเปิดฟังรายงานบนท้องถนนก่อนออกเดินทางเพื่อเลือกเส้นทางที่รถไม่ติด การดูข่าวพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าวันนี้ควรพกร่มออกนอกบ้านหรือเปล่า การคอยเปิดรับข่าวจะช่วยให้เราสามารถเรียนรู้วิธีรับมือกับเรื่องที่ไม่เคยประสบด้วยตัวเองมาก่อนได้แถมเปิดทางให้สามารถหลบหลีกเรื่องราวโชคไม่ดีได้อย่างรู้จังหวะเวลา
2.จดจ่อกับสิ่งรอบตัว
แน่นอนว่าในแต่ละวันแต่ละคนต่างพบเจอกับเรื่องราววุ่นวายมากมายจนอาจมีจังหวะที่ลืมตัวที่ใส่ใจสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เช่น ใจลอยขณะขับรถ เมินเฉยท่าทางหรือภาษากายของผู้คนที่พูดคุยด้วย หรือ ลืมว่าวางสิ่งของไว้ตรงไหน ซึ่งแท้จริงหมายถึงการอยู่กับปัจจุบัน ดังนั้นแล้วการจดจ่อกับสิ่งรอบตัวจะช่วยให้เราสามารถตระหนักในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนตามความเป็นจริง และตอบสนองได้อย่างเหมาะสมและตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
3.ตื่นเช้ากว่าเดิม
ทำไมคำแนะนำไหนๆ ถึงมักบอกให้คนเราตื่นเช้ากว่าเดิม หรือท่ีจริงแล้วการตื่นเช้าขึ้นหมายถึงการมีเวลาเตรียมตัวเยอะกว่าเก่า ไม่ต้องพะวงกับการไปสาย หรือหลุดพ้นเรื่องโชคร้ายอย่างปัญหารถติดได้ ที่สำคัญเมื่อเรามีเวลาเตรียมพร้อมมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ ย่อมช่วยให้เราหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่ไม่ตั้งใจได้ง่ายกว่า และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้นด้วย
4.ออกกำลังเป็นประจำ
ข้อดีของการออกกำลังกายไม่เพียงทำให้ร่างกายแข็งแรงและห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บเท่านั้น แต่ยังเสริมสมรรถภาพร่างกายให้มีความกระฉับกระเฉงคล่องตัว ที่สำคัญยังช่วยให้มีสมาธิจดจ่อและกระปรี้กระเปร่าได้ตลอดวัน ซึ่งช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างว่องไวตรงเวลาและประสบความสำเร็จอีกด้วย
5.เปิดใจให้กว้าง
คนโชคดีแท้จริงแล้วอาจเป็นคนที่เปิดใจให้โอกาสใหม่ๆ และหนทางแก้ปัญหาที่หลากหลายมากกว่า คนใจกว้างมักไม่ลังเลที่จะมองหาประสบการณ์แปลกใหม่ และมักจะมองว่าตัวเองโชคดีแทนเมื่อความเปลี่ยนแปลงเป็นไปในทิศทางที่ดี ในขณะเดียวกัน คนที่ปิดกั้นและมีมุมมองที่แคบมักจะยอมหยุดอยู่กับจุดเดิมและล้มเลิกจะมองหาหนทางที่ดีกว่าเพราะยึดมั่นและปิดใจตัวเองไปแล้ว ต่างจากคนเปิดใจที่จะเลือกมองปัญหาในมุมกว้างขึ้นจึงทำให้มีอากาสแก้ปัญหาได้อย่างหลากหลายเพราะมีตัวเลือกที่ง่ายและเร็วมากกว่า
6.หาทางหนีทีไล่
การพึ่งพารายได้ทางเดียว ลงทุนกับที่ใดที่เดียว หรือ มีการมีทางออกเดียวให้ตัวเองอาจไม่ใช่วิธีที่ดีนักเพราะนี่หมายถึงการไม่เปิดโอกาสหรือทางเลือกให้ตัวเองได้ล้มเหลว หากเสียหรือขาดทุนก็เท่ากับเสียทั้งหมดในคราวเดียว ในทางกลับกัน หากเรามองหาทางหนีทีไล่ไว้ให้ตัวเองในทุกสถานการณ์ ย่อมทำให้เราสามารถรับมือเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างรู้เท่าทัน รวมทั้งยังฝึกปรือให้ตัวเราเองมีความพร้อมรอบด้าน เช่น ฝึกทักษะหลายๆ อย่างไปพร้อมกัน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีไว้กับผู้คนหลากหลาย เมื่อถึงคราวจำเป็นทั้งหมดนี้ก็กลับกลายเป็นเรื่องโชคดีได้ง่ายๆ เพราะหาลู่ทางให้ตัวเองไว้ก่อนแล้ว
7.มองโลกในแง่ดี
คนโชคดีหลายคนมักพบว่าจริงๆ แล้วตัวเองก็เป็นคนมองโลกในแง่ดีเช่นเดียวกัน เพราะการมองสิ่งต่างๆ ด้วยมุมมองแง่บวกจะช่วยให้คนเราสามารถโฟกัสไปที่โอกาสมากกว่าสิ่งสูญเสียและสัมผัสได้ถึงทางออกอยู่เสมอ เป็นสาเหตุให้คนมองโลกในแง่ดีรู้สึกว่าโชคดีและมีความสุขมากกว่า ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถฝึกฝนการเป็นคนมองโลกในแง่ดีได้เช่นเดียวกันเพียงให้ความสำคัญกับเรื่องราวเชิงบวกมากกว่าเชิงลบ เพียงเท่านี้ก็สามารถรู้สึกเป็นคนโชคดีได้ขึ้นมาทันที