• บุคคลธรรมดาอายุ 20 ปีขึ้นไป  สัญชาติไทย หรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทยที่มีสถานประกอบการและประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยไม่พิจารณาสัดส่วนการถือหุ้น
  • กรณีลูกค้าเดิม เป็นผู้ประกอบการธุรกิจที่มีวงเงินรวมสินเชื่อธุรกิจเดิมไม่เกิน 500 ล้านบาท  กับธนาคารออมสิน ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 และมีสถานะผ่อนชำระปกติ หรือค้างชำระไม่เกิน  90  วัน (ยังไม่เป็น NPLs) ณ วันที่ 31  ธันวาคม 2562 ทั้งนี้ วงเงินรวมของสินเชื่อธุรกิจ รวมสินเชื่อเช่าซื้อที่มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจ สินเชื่อธุรกิจห้องแถว และสินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน แต่ไม่นับรวมวงเงินสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งได้แก่  วงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ วงเงินสินเชื่อบัตรเครดิต วงเงินสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย  และวงเงินสินเชื่อเช่าซื้อที่มีวัตถุประสงค์ไม่ได้นำไปใช้สำหรับธุรกิจ หรือ
  • กรณีลูกค้าใหม่ เป็นผู้ประกอบการธุรกิจที่ไม่มีวงเงินสินเชื่อธุรกิจกับธนาคารออมสิน และสถาบันการเงินอื่น ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 (ไม่รวมถึงวงเงินสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค)
  • ไม่เป็นบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เว้นแต่เป็นบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI)
  • ไม่เป็นผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน
  • ต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ตามที่พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2564 กำหนดทุกประเภทธุรกิจ เช่น ธุรกิจการผลิต ธุรกิจการบริการ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจค้าส่ง ฯลฯ และรวมถึงธุรกิจอื่น ๆ
  • ไม่ใช่ลูกหนี้ที่โอนหนี้  (Refinance)

เพื่อการลงทุน หรือการปรับปรุง หรือการพัฒนา ในเรื่องของเครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ ตลอดจนระบบหรือกระบวนการต่าง ๆ ที่เป็นการเสริมศักยภาพธุรกิจให้สามารถแข่งขันและดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน โดยสอดรับกับบริบทโลกใหม่ (new normal) ดังนี้

  • กระแสดิจิทัลเทคโนโลยี เช่น การติดตั้งระบบซื้อขายผ่าน online marketing หรือ การติดตั้งระบบเส้นทางและ QR code ในการคัดแยกพัสดุหรือขนส่ง (smart logistic) ฯลฯ
  • การดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (solar cell) หรือ การติดตั้งระบบการจัดการขยะ ฯลฯ
  • นวัตกรรมแห่งโลกอนาคต เช่น การทำ smart farming หรือ การผลิตผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชแทนเนื้อสัตว์ (plant-based food) ฯลฯ
  • เงินกู้ระยะยาว  (L/T)
  • ไม่เกิน  150  ล้านบาท  นับรวมวงเงินที่ผู้ประกอบธุรกิจได้รับสินเชื่อตามพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 “โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่มีวงเงินสินเชื่อเดิม ไม่เกิน 500 ล้านบาท และวงเงินสินเชื่อ “โครงการสินเชื่อ Soft Loan ธปท.  เพื่อฟื้นฟูกิจการ” (กรณีลูกค้าใหม่นับรวมทุกสถาบันการเงิน)
  • ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน  10  ปี  โดยให้ปลอดชำระหนี้เงินต้นไม่เกิน  24  เดือน
ปีที่ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ อัตราดอกเบี้ยกรณีผิดนัดไม่ชำระหนี้
1-2 ร้อยละ  2.00  ต่อปี  โดยรัฐบาลจะชำระดอกเบี้ย  6  เดือนแรกนับแต่วันที่ผู้ประกอบธุรกิจได้รับสินเชื่องวดแรกของการยื่นขอกู้ยืมเงินจาก  ธปท.  แต่ละครั้ง ยกเว้นให้
3 ร้อยละ  6.50  ต่อปี
4 ร้อยละ  7.00  ต่อปี
5 ร้อยละ  7.50  ต่อปี
6-10 MLR + ร้อยละ  2  ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ + ร้อยละ 3 ต่อปี

ทั้งนี้ ในช่วง 5 ปีแรก คิดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด ซึ่งไม่เกินอัตราร้อยละ 5 ต่อปี

ให้ใช้อย่างใด อย่างหนึ่ง ดังนี้

  • บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม  (บสย.)  ค้ำประกันเต็มวงเงินกู้
  • หลักประกันประเภทใดประเภทหนึ่ง หรือหลายประเภทร่วมกัน เป็นหลักประกันเต็มวงเงินกู้  โดยใช้เกณฑ์พิจารณามูลค่าหลักประกันเช่นเดียวกับสินเชื่อธุรกิจและ SMEs  ดังนี้

(1)  สมุดฝากเงิน/สลากออมสิน พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 95 ของมูลค่าหลักประกัน

(2)  ที่ดินและอาคาร ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ  80  ของราคาประเมินหลักทรัพย์

(3)  ที่ดินเปล่า ที่เป็นโฉนดที่ดิน หรือ น.ส.3 ก.  หรือห้องชุดให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ  70  ของราคาประเมินหลักทรัพย์

(4)  หลักทรัพย์ที่สามารถจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจได้ หรือหลักทรัพย์อื่นตามที่ธนาคารกำหนด

  •  ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดสรรวงเงิน  Soft loan  อัตราดอกเบี้ยร้อยละ  0.01  ต่อปี  ให้ธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ  วงเงินรวม  250,000  ล้านบาท  เป็นเวลา  5  ปี (นับรวมวงเงินโครงการดังกล่าว กับโครงการสินเชื่อ Soft Loan ธปท. เพื่อฟื้นฟูกิจการ)